พระคาถาชินบัญชร
สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี
ก่อนเจริญภาวนาชินบัญชร ตั้งนะโม 3 จบ แล้วระลึกถึงเจ้าประคุณสมเด็จฯ
ด้วยคำว่า
ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละ เภธะนัง
อัตถิ กาเย กายะญายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตตะวา
อิติปิ โส ภะคะวา ยะมะราชาโน
ท้าวเวสสุวัณโณ มะระณัง สุขัง
อะระหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ
๑ ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตะวา มารัง สะวาหะ นัง
จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา
๒ ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา
สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเก เต มุนิสสะรา
๓ สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโล จะเน
สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะ คุณากะโร
๔ หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะ ทักขิเณ
โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก
๕ ทักขิเณ สะวะเณ มัยหัง อาสุง อานันทะราหุลา
กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก
๖ เกสะโต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร
นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิ ปุงคะโว
๗ กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก
โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิ คุณากะโร
๗ ปุณโณ อังคุลิมาโล จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี
เถรา ปัญจะ อิเมชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ
๙ เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา
เอตาสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา
ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา
๑๐ ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะสุตตะกัง
ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง
๑๑ ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะ กัง
อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา
๑๒ ชินาณา วะระสัง ยุตตา สัตตัปปาการะลังกะตา
วาตาปิตตา ทิสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา
๑๓ อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะ เตชะสา
วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะ ปัญชะเร
๑๔ ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา
๑๕ อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว
ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะปัญชะเรติฯ
ฉบับถูกต้องตรวจตามไวยากรณ์โดย พระศรีสุทธิโสภณ (เที่ยง ป.ธ.๙)
หมายเหตุ 1 อาสุง เป็นพหูพจน์ อานันทะราหุลา จึงต้องเป็นพหูพจน์ตามส่วนมากพิมพ์เป็น อาสุง อานันทะลาหุโล ซึ่งผิดไวยากรณ์
หมายเหตุ 2 เอตาสีติ – เอเต + อะสีติ เป็นโลปสระสนธิ คือ ลบ เอที่เตออก คงเป็น เอตะ แล้วนำไปเชื่อมกับอะสีติ รัสสะสระ 2 ตัวรวมกันต้องทีฆะคือทำให้มีเสียงยาวจึงเป็น เอตาสีติ ดังกล่าวแปลว่า พระมหาเถระ 80 เหล่านั้น
หมายเหตุ 3 ชินนะ บวก อาณา เท่ากับ ชินาณา และอาณา แปลว่า อำนาจ ส่วนมากพิมพ์เกินเป็น ชินานา ซึ่งไม่รู้แปลว่าอย่างไร
บทแปล
บทแปล
- พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลาย ผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์
ทรงพิชิตพระยามาราธิราชผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว เสวยอมตรสคือ
อริยะสัจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์
- มี ๒๘ พระองค์คือ พระผู้ทรงพระนามว่า ตัณหังกรเป็นต้น พระพุทธเจ้าผู้จอมมุนีทั้งหมดนั้น
- ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บนศีรษะ
พระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง
พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งสรรพคุณอยู่ที่อก
- พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจพระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา
พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย พระอัญญาโกณทัญญะอยู่เบื้องหลัง
- พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา
พระกัสสะปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย
- มุนีผู้ประเสริฐคือพระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริดังพระอาทิตย์ส่องแสง
อยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
- พระเถระกุมาระกัสสะปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ
มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากเป็นประจำ
- พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี
พระเถระทั้ง ๕ นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก
- ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือผู้มีชัยและเป็นพระโอรส
เป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วน
รุ่งเรืองไพโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่
- พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้าพระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา
พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคะสูตรอยู่เบื้องหลัง
- พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยสูตร
เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ
- อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลาย นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้
ผู้ประกอบพร้อมด้วยกำลังนานาชนิด มีศีลาทิคุณอันมั่นคง
สัตตะปราการเป็นอาภรณ์มาตั้งล้อมเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น
- ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้าไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ
เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรงล้อม
แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวะทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน
อันเกิดแต่โรคร้าย คือ โรคลมและโรคดีเป็นต้น
เป็นสมุฏฐานจงกำจัดให้พินาศไปอย่าได้เหลือ
- ขอพระมหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น
จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร
ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดีฉะนี้แล
- ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม
จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายใดๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า
ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวงด้วยอานุภาพ
แห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติ และรักษาดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดรเทอญฯ
วิธีสวดพระคาถาชินบัญชร
การเริ่มต้นสวดภาวนาให้หาวันดีคือ วันพฤหัสบดี เป็นวันเริ่มต้นโดยน้อมนำดอกไม้ธูปเทียนถวายบูชาคุณพระศรีรัตนตรัย และดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ถ้าไปที่วัดระฆังฯ ได้ก็ยิ่งดี ถ้าไปไม่ได้ก็ให้ระลึกถึงท่านหันหน้าไปทางวัดระฆังฯ ก็ใช้ได้ เมื่อบูชาพระรัตนตรัยและดวงพระวิญญาณของเจ้าประคุณสมเด็จฯ แล้วจึงเริ่มต้นสวดโดยอ่านตามบทให้ได้ 1 จบ ก็เป็นอันเสร็จพิธีเริ่มต้น
จากนั้นก็หมั่นท่องบ่อย ๆ จนจำได้แม่นยำยิ่งคล่องก็ยิ่งดีก่อนนอนทุกคืนสวดเสียหนึ่งจบ ถ้าจะเดินทางไปต่างถิ่น ก่อนจะไปให้สวดภาวนาเสียหนึ่งจบจึงบ่ายหน้าไปจะปลอดภัย นอนกลางคืนไม่สะดุ้งตกใจหรือหวาดผวา เช้าตื่นมาจะทำน้ำมันต์ล้างหน้าก็ให้จุดธูปเทียนบูชา ว่าพระคาถาเสียหนึ่งจบนำน้ำไปล้างหน้ารดตัวจะมีกำลังใจ จะทำมาค้าขายระลึกถึงเจ้าประคุณสมเด็จฯ ทำน้ำมนต์ด้วยพระคาถานี้นำไปพรมข้าวของจะขายดี จะมีพระของสมเด็จฯ หรือไม่ก็ตามสวดพระคาถานี้ก็เท่ากับมีพระสมเด็จฯ ของท่านเหมือนกัน เจ็บไข้ได้ป่วยทำน้ำมนต์ด้วยพระคาถานี้จะช่วยได้ไม่มากก็น้อย หมั่นภาวนาไว้จะมีสุคติภูมิเป็นที่ตั้งมีเหตุอันตรายจะทำให้แคล้วคลาดไป ใครคิดร้ายก็แพ้ภัย เป็นของมีค่านับประมาณมิได้ เป็นสมบัติอมตะที่เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ทิ้งไว้ให้ลูกหลานใช้สวดภาวนาป้องกันภัยนานาประการฯ
ขอขอบคุณหนังสือสวดมนต์ฉบับประจำบ้าน เล่ม ๑
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น